A.A.C ตอนที่ 9 Professional Graphics ภาคจบ

หลัง จากที่ทาง NVIDIA ได้ส่ง Quadro ซึ่งเป็นชิพที่เกิดจากการนำชิพ Geforce 256 มาปรับแต่ง ลงมาแข่งขันในตลาด WorkStation ซึ่งการมาถึงของ Quadro นั้นทำให้พวกรุ่นพี้ที่เคยครองตลาดการ์ดจอระดับ WorkStation มาก่อนถึงขั้นกระอักเลือดกันเป็นแถบๆ ร่วมถึงเจ้าพ่อแห่ง CAD อย่าง 3DLabs ด้วยครับ แน่นอนงานนี้ 3DLabs ต้องมีการล้างตาเอาคืนจาก NVIDIA แน่ๆครับ....เอาล่ะเรามาดูกันต่อ
ในช่วงเวลาปี 2000 3DLabs ได้ซื้อกิจการของ intense3D ซึ่งเป็นผู้ผลิตการ์ดจอ และหลักจากนั้น 3DLabs ก็เริ่มผลิตการ์ดจอเองโดยเลิกส่งชิพให้ผู้ผลิตรายการ ์ดจอรายอื่นๆ และ 3DLabs ก็เตรียมตัวทำการ์ดตัวใหม่ออกมาถวงบัลลังค์แห่ง OpenGL คืนจาก NVIDIA ครับ
หลังจากที่ NVIDIA ได้รับความสำเร็จในตลาด Workstation จาก Quadro ไปแล้วทาง NVIDIA เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่ง Quadro 2 Pro ซึ่งเป็นชิพที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีการผลิตเช่นเดีย วกับ GeForce2 GTS ออกมาป้องกันแชมป์ครับ

 

0026_Qudro2pro

ภาพข้างบน การ์ดจอ Elsa GLoria III ที่ใช้ชิพ NVIDIA Quadro 2 Pro (มันมาตัวเดียวอีกแล้วครับท่าน)

ประวัติความเป็นมาของ ATI FireGL
ช่วงเวลาก่อน หน้านี้ ATi ได้ซื้อกิจการของ FireGL ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติ German ที่ออกแบบการ์ดจอสำหรับเครื่อง WorkStation ซึ่ง FireGL เคยมีชื่อเสียงจากการออกแบบการ์จอ Diamond FireGL series ให้กับทาง Diamond Multimedia มาก่อน ทาง ATi เห็นว่าบริษัท FireGL หน้าจะมีอนาคตที่ดี ATi จึงได้ตัดสินใจซื้อกิจการของ FireGL มาไว้ในครอบครอง
FireGL เริ่มแรกตอนอยู่กับ Diamond Multimedia นั้น ได้ออกแบบการ์ดจอโดยใช้ชิฟกราฟฟิกของ 3DLabs หลังจากที่ 3DLabs ได้เปลี่ยนทิศทางมาผลิตการ์ดด้วยตัวเอง FireGL จึงได้หันหน้าไปใช้ชิพของทาง IBM แทนครับ ต่อมาเมื่อ FireGL มาอยู่กับ ATi ในระยะแรกๆนั้น ATi ยังไม่มีความสามารถที่จะผลิตชิพกราฟฟิกสำหรับตลาด WorkStation ด้วยตนเองได้ FireGL จึงเลือกใช้ชิพกราฟฟิกจาก IBM สำหรับการ์ด ATI FireGL รุ่นแรกๆไปก่อนครับ ต่อมาเมื่อ ATI สามารถผลิตชิพที่มีประสิทธิภาพสูง อย่าง Radeon 8500 ได้สำเร็จ ATi FireGL รุ่นต่อๆมาจึงใช้ชิพที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Radeon แทนชิพที่เคยใช้จาก IBM ครับ
ATI FireGL 4 คือ การ์ดจอ ATi FireGL รุ่นแรกๆ และเป็นรุ่นที่ใช้ชิพจาก IBM ด้วยครั

 

0027

ภาพข้างบน การ์ดจอ ATi FireGL 4

ชิพ IBM ที่ ATI FireGL 4 นำมาใช้นั้นประกอบด้วยชิพ 2 ตัวนั้นได้แก่
1. IBM GT 1000 เป็นชิพ Geometry Engine (ชิพตัวที่อยู่ใต้ชุดระบายความร้อนทองแดง)
2. IBM RC 1000 เป็นชิพ Rasterizer ทำหน้าที่ Render ภาพ
และ แล้ว ก็มาถึงการ์ดของ 3DLabs พระเอกของเรา (เฉพาะใน A.A.C ตอนที่ 8 และ 9) ก็เปิดตัวการ์ดจอ สุดอลังการณ์งานสร้างออกมาครับ นั้นก็คือ 3DLabs Wildcat II 5110 ซึ่ประกอบด้วย ชิพ Geometry Engine จำนวน 2 ตัว และ ชิพ Rasterizer 2 ตัว ร่วมกันเป็น 4 ตัว ครับ งานนี้ 3DLabs หมายจะเอาตำแหน่งการ์ดจอ WorkStation อันดับหนึ่งคืนมาให้ได้ครับ

0028_3DLab

ภาพข้างบน การ์ดจอ 3DLabs Wildcat II 5110

 

เอาล่ะเรามาดูการทดสอบกันดีกว่า

 

0030 

0031

0032

0033

0034

งานนี้เรียกว่าได้ว่า 3DLabs กับ ATi กด NVIDIA เสียจนโงหัวไม่ขึ้นเลยครับ ทั้งในเรื่องของคะแนน และขนาดของตัวการ์ด อิอิ
แต่ ในทางกลับกันราคาของ Elsa GLoria ที่ใช้ชิพ NVIDIA Quadro 2 Pro นั้น ก็มีราคาถูกกว่า 3DLabs Wildcat II 5110 และ ATi FireGL4 ถึงเท่าตัวเลยที่เดียวครับ

 

3DLabs ต้องยอมรับความจริงแล้วว่า การใช้ชิพประมวลผลหลายๆตัวนั้น เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้กับกราฟฟิกการ์ดของตน 3DLabs จึงได้เปลี่ยนแนวคิดมาใช้ชิพตัวเดียว เช่นเดียวกับที่ NVIDIA ทำอยู่
3DLabs P9 เป็นการกลับมาอีกครั้งของชิพเดี่ยวจาก 3DLabs แต่ว่าหน้าเสียดายที่ผมไม่สามารถหาผลการทดสอบของการ์ ดที่ใช้ Chip 3DLabs P9 มาให้ท่านชมได้ครับ
3DLabs P10 นี้ก็เป็นชิพอีกตัวที่รวมหน่วยประมวลทางกราฟฟิดทั้งห มด ไว้ในชิพเพียงตัวเดียวของ 3DLabs ครับ

 

0035vp870-chip

ภาพชิพ 3DLabs P10

 

3DLabs P10 นี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่มันสามารถนำหน่วยความจำหลักขอ งระบบ หรือที่เราเรียกันว่า Ram มาช่วยในการประมวลผลได้ด้วยครับโดยมิวิธีการดังนี้

0036_scheme-vmemory

ภาพแสดงการทำงานของ 3DLabs Virtual texture Memory

 

3DLabs P10 จะนำเฉพาะข้อมูลที่ตาเราสามารถมองเห็นได้ มาเก็บไว้ที่หน่วยความจำบนตัวการ์ดจอครับ
และ ส่วนข้อมูลที่ตาเราไม่สามารถมองที่จะเห็น แต่จะต้องใช้ประมวลผลในลำดับถัดไป หรือจะต้องแสดงออกมาใน Frame ถัดไป 3DLabs P10 ก็จะนำข้อมูลในส่วนนี้ไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของระบบ หรือ Ram นั้นเองครับ
การจัดการหน่วยความจำเช่นนี้จะทำให้ช่วยประหยัดการใช ่งานหน่วยความจำบนตัวการจอเป็นอย่างมากครับ
สำการ์ดในตระกูลที่ใช้ชิพ 3DLabs P10 นี้ ทาง 3DLabs เองก็ได้ทำออกมาทั้งรุ่นที่ใช้สำหรับตลาด Workstation และสำหรับตลาด Game ครับ

0036_vp870-card-front-wth-cooler

0037_vp870-card-front

ภาพของ 3DLabs Wildcat VP870 ความหวังของการกลับเข้ามาในตลาดเกมของ 3DLabs (คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่)

 

3Dlabs Wildcat VP870
3Dlabs Wildcat VP870 เป็นการ์ดจอระดับกลางของทาง 3DLabs ครับ
3DLabs Wildcat VP870 นี้นอกจากจะโดนวางตำแหน่งไว้เป็นการ์ดระดับกลางในตลา ด Workstation แล้ว มันยังถูกวางตำแหน่งให้เป็นการ์ดระดับสูงในตลาดเกมอี กด้วยครับ
ดู จากการวางตำแหน่งของเจ้า Wildcat VP870 คงพอที่จะเดากันได้ว่าแล้ว 3DLabs มีความต้องการที่ จะกลับเข้ามาลงแข่งขันในตลาดเกมอีกครั้งเป็นแน่แท้
งั้นคราวนี้ เราลองมาดูกันซิว่า 3DLabs จะทำได้ดีขนาดไหนในการกลับมาลงแข่งขันในตลาดเกมครั้ง นี้ ครับ

 

0038_3dmark2001_SE

 

0038_vp870-morr1-1024

ภาพข้างบน ภาพเกม The Elder Scrolls III: Morrowind ที่ได้จากชิพ 3DLabs P10 (Wildcat VP870) (คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

 

 

0038_r8500-morr1

ภาพข้างบน ภาพเกม The Elder Scrolls III: Morrowind ที่ได้จากชิพ Radeon 8500 (คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

 

สำหรับในส่วนของการทด 3DMark 2001se ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ทดสอบความสามารถของการ์ดจอในกา รเล่นเกม ก็พอจะบอกได้ว่าการกลับมาในตลาดเกมของ 3DLabs ครั้งนี้คงไม่สำเร็จเป็นแน่ ครับ
แต่สำหรับในส่วนของการทำงาน 3D นั้นทาง 3DLabs ก็ยังสามารถคงความโดดเด่นไว้ได้เหมือนเดิมครับ
แน่นอนในการทดการทำงาน 3D เราก็ต้องเอาการ์ดสำหรับการทำงานมาทดสอบแข่งกันซิครั บ โดยการ์ดสำหรับทำงานที่อยู่ในรุ่นเดียวกันประกอบด้วย

0065firegl8800cardfront

ภาพ ATi FireGL 8800(คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

 

FireGL 8x00 Series คือ ชิพที่ใช้พื้นฐานทางเทคโนโลยีของ Radeon 8500 เป็น FireGL รุ่นแรกที่ใช้ชิพของ ATi เองครับ (ก่อนหน้านี้ FireGL ใช้ชิพของ 3Dlabs และ IBM)

 

0066quadro4cardfront

ภาพ NVDIA Quadro4 900XGL(คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

Quadro 4 series คือ ชิพที่ใช้พื้นฐานทางเทคโนโลยีของ NV 2X เช่นเดียวกับชิพในตระกูล GeForce 4
สำหรับการกลับมาของ 3DLabs ในรุ่น VP Series นั้น 3DLabs ทำได้ดีมากๆครับ เพราะราคาของการ์ดในตระกูลนี้มีให้เลือกตั้งแต่ 200 USD - 500 USD(ใน VP series ประกอบด้วย VP 560, VP 760, VP 870, VP 970) ซึ่งการที่ 3DLabs ตั้งราคาแบบนี้ทำให้การ์ดของ 3DLabs สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้หลายระดับมากขึ้นครับ

 

0039_diag-3dmax-4views-p4 

0040_diag-3dmax-geom1-p4_2

0041_diag-3dmax-light1-p4

0042_diag-3dmax-wireframeaa-p4

 

 

 

นอกจากนี้ 3DLabs ยังได้นำ P10 มาทำเป็น MulltiVPU (MultiGPU) บนการ์ดเดียวกันด้วยครับ โดย 1 ในการ์ดหลายๆรุ่นที่ 3DLabs ทำเป็นเป็น MultiVPU ออกมาก็คือ Wildcat 4 7210 ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 384 MB

 

0043_wc7210-front

 

ภาพ 3DLabs Wildcat4 7210(คลิกรูปดูภาพใหญ่)

 

0044_quadrofx3000-scan-front

 

ภาพ Quadro FX 3000 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)

แต่หน้าเสียดายครับ ตรงที่เมื่อยุคสมัยของ DirectX 9 ซึ่งใช้ Shader Model 2.0 มาถึงการ์ดของ 3DLabs ตัวนี้กลับไม่สามารถใช้คุณสมบัติของ Shader Model 2.0 ได้อย่างเติมที่ เหนื่องจากชิพในตระกูล P10 นั้นแม้จะรองรับ Vertex shader 2.0 แล้ว แต่ Pixel Shader นั้นกลับรองรับเพียงเวอร์ชั่น 1.2 เท่านั้นเอง และคู่แข่งของ Wildcat4 7210 ในเวลานั้นคือ NVIDIA Quadro FX3000 ที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีมากจาก GeForce FX ซึ่งรองรับ Shader Model 2.0 อย่างเติมตัว สาเหตุนี้แม้ Wildcat4 7210 จะมีชิพ 2 ตัวก็ยังไม่สามารถเอาชนะ Quadro FX3000 ที่ใช้ชิพเพียงตัวเดียวได้ และที่สำคัญ Quadro FX3000 ก็มีราคาที่ถูกกว่าด้วย
Wildcat4 7210 ราคา 1720 USD
Quadro FX3000 ราคา 1370 USD
*หมายเหตุ เวอร์ชั่นของ Shader Model ก็มีผลต่อความเร็วในการทำงาน เช่น การคำนวนแสง เป็นต้น
ตัวอย่าง
SM 1.X จะคำนวนแสง 8 รอบสํญญานนาฬิกา (Hz)
SM 2.X จะคำนวนแสง 4 รอบสํญญานนาฬิกา (Hz)
SM 3.0 จะคำนวนแสง 1 รอบสํญญานนาฬิกา (Hz)

 

ผลการทดสอบ

0045

0046

 

สังเกตเมื่อเปิด AA แล้ว ประสิทธิภาพของ 3DLabs จะตกลงเป็นอย่างมากเลยครับ (คลิกที่รูปดูภาพใหญ่)

 

เรามาดูเรื่องคุณภาพของภาพดีกว่า

 

0047_wc4-3dsmax5-wireframe-small 0048wc4-3dsmax5-wireframe-aa-3dsmax5-small

ภาพข้างบน ได้จาก 3DLabs Wildcat4 7210 ตอนที่ยังไม่เปิด AA (ซ้าย) และตอนเปิด AA (ขวา) คลิกที่รูปดูภาพใหญ่

 

 

0049fx3000-3dsmax5-wireframe-small 0050fx3000-3dsmax5-wireframe-aa-3dsmax5-small

 

ภาพข้างบน ได้จาก NVIDIA Quadro FX 3000 ตอนที่ยังไม่เปิด AA (ซ้าย) และตอนเปิด AA (ขวา) คลิกที่รูปดูภาพใหญ่

สำหรับเรื่องภาพนี้ก็แล้วแต่คนชอบก็แล้วกันนะครับ

 

 

3DLabs Wildcat Realizm Series (สงครามครั้งสุดท้ายของ 3DLabs)
หลัง จากที่ประสบความล้มเหลวจาก P10 ทาง 3DLabs จึงได้ออกชิพตัวใหม่ที่มีความสามารถรองรับ Shader Model 2.0 เต็มรูปแบบออกมา ชิพตัวนั้นคือ P20 เจ้า P20 นี้โดนนำไปประกอบลงการ์ดจอ 3DLabs Wildcat Realizm Series ครับ
*หมายเหตุ Shader Model ใน Wildcat Realizm Series นั้นลองรับดังนี้ Vertex Shader 2.0 และ Pixel Shader 3.0 ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม่ 3DLabs ทำให้การ์ดของตัวเองรองรับ Shader Model แบบ ครึ่งๆกลางๆเช่นนี้
สำหรับใน Series นี้ของ 3DLabs เท่าที่ผมพอจะหาผลการทดสอบมาให้ดูได้ก็จะมีเพียง Wildcat Realizm 200 และ Wildcat Realizm 800 ครับ
สำหรับ Wildcat Realizm 200 นั้นจะใช้ชิพประมวลผลที่ชื่อว่า Wildcat Realizm หรืออีกชื่อนึงคือ P20 จำนวน 1 ตัว ครับ
ส่วน Wildcat Realizm 800 นั้นจะใช้ชิพ Wildcat Realizm หรือ P20 จำนวน 2 ตัว ครับ

 

0051_wcr800 80063

ภาพบน การ์ดจอ Wildcat Realizm 800 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)

 

 

0052_wcr200 w0064

ภาพบน การ์ดจอ Wildcat Realizm 200 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)

 

 

0053_QFX4000

ภาพบน การ์ดจอ Quadro FX 4000 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)

 

 

0054_FireGLx3

 

ภาพบน การ์ดจอ FireGL X3 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)

 

 

 

0055_2_Specification

 

0055_B1

0055_B3

 

ทดสอบการทำ trilinear and anisotropic filtering quality

0055_3dLabs

ข้างบน ภาพที่ได้จาก 3Dlabs Wildcat Realizm Series เปิด 8xAF applied(คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)

 

 

 

0057_Nvidia

ข้างบน ภาพที่ได้จาก NVIDIA Quadro FX4000 เปิด 16xAF applied(คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)

 

 

0056_ATi

 

ข้างบน ภาพที่ได้จาก ATi FireGL X3 เปิด 16xAF applied(คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)

 

การทดสอบ Shadermark v2.1

 

0058_3dLabs

ข้างบน ภาพที่ได้จาก 3Dlabs Wildcat Realizm Series (คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)

 

 

0060NVidia

 

ข้างบน ภาพที่ได้จาก NVIDIA Quadro FX4000 (คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)

 

 

0059_ATi

ข้างบน ภาพที่ได้จาก ATi FireGL X3 (คลิกที่รูป ดูภาพใหญ่)

แม้ว่าในด้านของประสิทธิภาพ 3Dlabs Wildcat Realizm Series จะทำผลงานออกมาได้หน้าประทับใจแต่การ์ดของ 3DLabs กลับขายได้น้อย นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าการ์ดของ 3DLabs นั้นมีราคาที่แพง และชื่อเสียงของ 3DLabs ก็ไม่ดีเหมือนในสมัยก่อนแล้ว 3DLabs จึงตัดสินใจอำลาวงการชิพกราฟฟิก และหันหน้าไปทำชิพสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กแทนครับ

0 ความคิดเห็น: