คำนำ
สวัสดีครับ สำหรับตอนนี้ก็จะเป็นตอนสุดท้ายของ A.A.C ภาคการ์ดจอแล้วนะครับ สำหรับเรื่องราวของผู้ผลิตชิพกราฟิคที่กระผมได้เลือกมานำเสนอเป็นตอนสุดท้ายนี้ก็คือ เรื่องราวของ 3dfx ครับ 3dfx นั้นนับได้ว่า เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการปฏิวัติวงการเกม PC เป็นอย่างมากเลยครับ และเรื่องราวของ 3dfx ก็เปรียบดุจดั่งนิยายครับ และการศึกษาประวัติของ 3dfx นั้นไม่ใช้เป็นเพียงแต่การการศึกษาประวัติของผู้ผลิตชิพกราฟฟิคเท่านั้น แต่เป็นการศึกษาประวัติความเป็นมาของวงการเกม PC ไปในตัวด้วยครับ ว่าแล้วเราก็ไปดูเรื่องราวของ 3dfx กันเลยดีกว่านะครับ
เปิดศักราชใหม่แห่งวงการเกม 3D บน PC
ย้อนอดีตกลับไปเมื่อปีค.ศ. 1992 ในสมัยนั้นเกม 3D บนคอมพิวเตอร์ในต้องง้อพลังการประมวลผลของซีพียูเพียงอย่างเดียว หรือเรียกได้ง่ายๆว่าเครื่องไหนที่มีซีพียูแรง และมีแรมมากๆเครื่องนั้นก็จะเล่นเกมได้ดี แต่คำว่าดีในทีนี้ไม่ได่หมายความลื่นหัวแตกนะครับ แต่กลับหมายถึงว่ากระตุกน้อยกว่าเครื่องที่มีความเร็วซีพียูต่ำกว่านั้นเองครับ ว่าแล้วเราก็มาดูภาพเกม 3D ในสมัยปี ค.ศ 1992 กันหน่อยดีกว่า
ภาพเกม Ultima Underworld ที่ออกมาในปี ค.ศ. 1992
ภาพเกม Wolfenstein 3D ที่ออกมาในปี ค.ศ. 1992
จากภาพที่เห็นของเกม Ultima Underworld และ Wolfenstein 3D เป็นเกม 3D ที่ใช้ Texture Mapping ซึ่งจะกินพลังการประมวลผลของซีพียูเป็นอย่างมากครับ เพราะว่า ซีพียูต้องทำการคำนวนทั้งโครงสร้างภายในของวัตถุ และซีพียูทำการ Texture Mapping บนพื้นพิวของวัตถุ แถมยังต้องคำนวณการเคลื่อนไหวของวัตถุในทิศทางต่างๆอีกด้วยครับ อย่างนี้ไม่กระตุกก็ให้มันรู้ไปสิครับ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกม Ultima Underworld เป็นเกม 3D ที่มีการใช้ Texture Mapping อย่างเติมตัวเกมแรกครับ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกม Wolfenstein 3D เป็นเกมที่พัฒนาโดยค่าย id Sofware ซึ่งเป็นค่ายเกมเดี่ยวกับที่พัฒนา 2 เกมดังที่ใครๆหลายคนต่างรู้จักนั้นก็คือ Doom และ Quake ครับ เกม Wolfenstein 3D ถือได้ว่าเป็นแม่แบบของเกมแนว มุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือ First-person shooters เลยนะครับ
Doom ภาคแรกที่ออกมาในปี ค.ศ. 1993
เอาล่ะครับด้วยความมุ่งมั้นที่จะพัฒนาเกมดีๆ กราฟิคสวยๆให้กับแฟนๆนักเล่นเกม PC ทั้งหลายแหล่ (แม้สเปกเครื่องพวกท่านๆจะไม่ถึงก็ตามที) id Sofware ก็ได้ส่งเกม Doom ภาคแรกออกมาในปี 1993 ซึ่งเป็นเกม 3D ที่มีกราฟิคที่สวยงาม และสมจริงกว่าเกมต่างๆในยุคนั้นมาก และตามมาด้วยอัตราการบริโภค ซีพียูที่หนักเอาการ เรียกได้ว่าหากใครอยากจะเล่นเกม Doom ภาคแรก ก็ต้องอัพเกรดซีพียูเป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดเลยละครับถึงจะเล่นได้แต่ก็ยังกระตุกอยู่ดี เพราะเกมมันล้ำสมัยพอสมควร เหมือนกับในปัจจุบันหากใครต้องการเล่นเกม Crysis ก็ต้องใช้การ์ดจอระดับสูงตัวใหม่ จึงจะสามารถที่จะเล่นเกมๆนี้ได้ในระดับความละเอียดสูงๆครับ
3dfx Where are you?
3dfx ก่อตั้งขึ้นในปลายปีค.ศ. 1994 ครับ โดย Gordon Campell, Gary Taroilli และ Scott Sellers ครับ สำหรับในปี 1994 นี้ 3dfx กำลังเริ้มต้นพัฒนาชิพกราฟิคของตนเองอยู่ครับ
ต่อมาในปี 1995 ในงาน COMDEX ทาง 3dfx ได้นำเสนอชิพกราฟิคของตน ซึ่งเป็นชิพที่ใช้ API ที่ชื่อว่า Glide เป็นหลัก โดยชิพตัวนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ได้กับแผงวงจรสำหรับเครื่องเล่นเกม Arcade และสำหรับติดตั้งบนการ์ดเพื่อใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ด้วยครับ โดยชิพดังกล่าวภายในชิพมี TMU (Texture Mapping Unit) ซึ่งจะช่วยลดภาระการทำงานของซีพียูลง เมื่อมีการเล่นเกม 3D เพราะชิพตัวนี้จะช่วยประมวลผลในการทำ Texture Mapping บนพื้นพิวของวัตถุ 3มิติ แทนซีพียู ซึ่งจะทำให้ซีพียูเหลือพลังในการประมวลผลสำหรับนำไปใช้ในงานอื่นๆอีกมากมายเลยครับ
ชิพของ 3dfx ได้รับการตอบรับจากนักพัฒนาเกมจากค่ายต่างๆเป็นอย่างดี เพราะ API ที่ชื่อว่า Glide นั้น อำหนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนาเกมเป็นอย่างมาก เพราะ Glide มี Abtracetion Layer ทำให้นักพัฒนาเกมสามารถเขียนโปรแกรมเรียกใช้งานคุณสมบัติของ GLide ได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือน OpenGL และ DirectX ครับ
ในปี 1995 นี้ 3dfx แค่แนะนำสินค้าเฉยๆนะครับ ยังไม่ได้ว่างขาย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักพํฒนาซอฟแวร์ และลูกค้าที่จะต้องเก็บเงินไว้ซื้อการ์ดนั้นเองครับ
ต่อมาในปี 1996 ด้วยการพัฒนาอันไม่หยุดยั้งของค่าย id Software ก็ได้ส่งเกม Quake ออกมาอีกแล้วครับท่าน แต่โชคดีหน่อยที่ในปีนั้น ทางอินทลได้ส่งซีพียู Pentium MMX ออกมา ซึ่งภายในซีพียูมีชุดคำสั่ง MMX ที่ช่วยให้ซีพียูสามารถประมวลผลเกี่ยวกับงาน Multimedia ได้ดีขึ้น และเกม 3D เองก็ได้รับผลบุญไปด้วยครับ ซึ่งก็สามารถทำให้เล่นเกม Quake โดยการใช้ Software Render ได้ไม่กระตุกครับ แต่ภาพก็ยังไม่สวยซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของ Software Render ล่ะครับ
ในปีเดียวกันนี้เอง 3dfx ได้เปิดตัวการ์ดจอ Voodoo ซึ่งใช้ชิพเซตกราฟิค SST-1 ในงาน COMDEX และได้สาถิตการทำงานของ Voodoo ให้ผู้เข้าชมในงานดังนี้ครับ
- ทดสอบเล่นเกม Quake โดยใช้พลังการประมวลของซีพียู Pentium MMX 200 MHz เพียงอย่างเดียว หรือพูดง่ายๆคือ ทดสอบในโหมด Software Render นั้นเอง ทดสอบที่ความละเอียด 320 x 200 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 41 เฟรมต่อวินาทีครับ
- ทดสอบเล่นเกม Quake โดยใช้ Pentium MMX 200 MHz ร่วมกับ การ์ด Voodoo โดยใช้ API OpenGL ทดสอบที่ความละเอียด 320 x 200 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 70 เฟรมต่อวินาทีครับ
- ทดสอบเล่นเกม Quake โดยใช้พลังการประมวลของซีพียู Pentium MMX 200 MHz เพียงอย่างเดียว ทดสอบที่ความละเอียด 512 x 384 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 21 เฟรมต่อวินาทีครับ
- ทดสอบเล่นเกม Quake โดย Pentium MMX 200 MHz ร่วมกับ การ์ด Voodoo โดยใช้ API OpenGL ทดสอบที่ความละเอียด 512 x 384 ผลที่ได้คือ ได้เฟรมเรตออกมาอยู่ที่ 62 เฟรมต่อวินาทีครับ
ผลที่ได้จากการทดสอบ สร้างความตื้นเต้นให้กับคนในวงการเกม PC เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่ 3dfx ทำนั้น แสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้เราสามารถที่จะเล่นบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างลื่นไหลไม่กระตุก และมีภาพสวยงาม เชิคเช่นเดียวกับการเล่นบนเครื่อง Arcade ได้แล้ว ในที่สุดศักราชใหม่แห่งวงการณ์เกม PC ก็ได้ถูกเปิดขึ้นแล้วโดย 3dfx
3dfx Voodoo
หลังจากเปิดตัวในงาน COMDEX ไปแล้ว ต่อมา ในช่วงเดือน ตุลาคม ค.ศ. 1996 การ์ด Voodoo ก็โดนผลิตออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เพื่อป้อนตลาดกราฟิคการ์ด สำหรับคอมพิวเตอร์ และหลังจากที่ Voodoo ออกมาก็มีเกมต่างๆที่ใช้ GLIDE ตามออกมาในตลาดอย่างมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นเกม Tomb Raider ภาคแรก, เกม Mechwarrior 2 และเกมต่างๆอีกมากมาย
แต่ข้อจำกัดของ Voodoo นั้นคือ Voodoo เป็นการ์ดสำหรับทำหน้าที่ประมวลผล 3D อย่างเดียว ดังนั้นหากท่านจะซื้อการ์ดจอ Voodoo แล้วล่ะก็ท่านควรจะมีการ์ดสำหรับทำงาน 2D ทั่วไปไว้อีก 1ตัวเพื่อใช้ต่อทำงานร่วมกับ Voodoo ครับ
รายละเอียดของชิพเซตกราฟิค SST-1 บนการ์ด Voodoo
- เทคโนยีการผลิต 350 นาโนเมตร
- Core Speed 50 Mhz
- มี 1 PixelPipeline 1 Texture Mapping Unit
- Memory : EDO-RAM 50 Mhz 4-6 MB 64-bit x 2 (เนื่องจากใช้แรม 64 bit 2 ชุด ซึ่งทำงานเป็นอิสระต่อกัน)
- Slot PCI
ภาพการ์ดจอ Voodoo ซึ่งใช้ชิพเซต SST-1
ต่อมาในปี 1997 คู่แข่งที่หน้ากลัวของ Voodoo ก็ปรากกฎตัวขึ้น นั้นก็คือ NVDIA RIVA 128 และ ATI RAGE Pro ซึ่งชิพทั้ง 2 ตัวนี้เป็นชิพที่สามารถทำงานได้ทั้ง 2D และ 3D ในตัวเดียวกัน ซึ่งจะได้เปรียบ Voodoo ในเรื่องของความหลากหลายในการใช้งานแต่หากเทียบกัน ในเรื่องคุณภาพของงาน 3D ที่ได้แล้ว Voodoo จะเหนือกว่า และที่สำคัญ Voodoo นั้นออกมาว่างจำหน่ายก่อนทั้ง 2 ตัวนี้ ทำให้มีคนซื้อการ์ด Voodoo ไปใช้งานมากกว่า 2 ตัวนี้ แต่หากเทียบในส่วนของ OEM แล้ว ATI RAGE PRO กินขาดครับ เพราะบริษัทตั้งมานานกว่าใคร และหน้าเชื่อถือกว่าใคร เอาล่ะครับงานนี้ต้องรอดูกันครับว่า 3dfx จะแก้ทาง NVIDIA กับ ATI อย่างไร
Voodoo Rush
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1996 อีกครั้ง จริงๆแล้ว 3dfx นั้นรู้ขอเสียของตนเองดีกว่าใคร ว่าการที่ชิพของตนเองไม่สามารถประมวลผล 2D ได้นั้นเป็นจุดอ่อนของตน ดังนั้นหลังจากการเปิดตัว Voodoo ในปี 1996 ในงาน COMDEX จบลง ทาง 3dfx จึงได้ติดต่อไปหาทาง Alliance Semiconductor เพื่อที่จะได้นำชิพกราฟิคของ Alliance Semiconductor มาติดตั้งบนการ์ดตัวเดียวกับที่ติดตั้งชิพกราฟิคของ 3dfx ไว้ เพื่อช่วยในการประมวผล 2D
Voodoo Rush คือ การ์ดจอที่ใช้ชิพเซตกราฟิค 3D ชุดเดียวกันกับที่เคยติดตั้งอยู่บน Voodoo นั้นเอง เพียงแต่บนการ์ด Voodoo Rush นั้นจะมีการติดตั้งชิพประมวลผล 2D ไว้เพื่อให้ Voodoo Rush นั้นสามารถทำงานได้ทั้ง 3D และ 2D
ชิพเซตกราฟิค 3มิติ SST-96 ที่อยู่บนการ์ด Voodoo Rush นั้น จริงๆแล้วก็คือชิพเซต SST-1 ซึ่งเคยอยู่บนการ์ด Voodoo นั้นเองครับ แต่ถูกนำมาเพิ่มความเร็ว Core ขึ้นจากเดิมที่เคยใช้เพียง 50 MHz มาเป็น 79 MHz นอกนั้นเหมือนกันหมดทุกอย่างเลยครับ
แม้ว่า Voodoo Rush จะสามารถประมวลผลได้ทั้ง 2D และ 3D แต่ประสิทธิภาพที่ได้จากการประมวลผล 3D นั้นกลับด้อยกว่า Voodoo ธรรมดาอยู่ 10% นั้นเป็นเพราะ Voodoo Rush นั้นต้องทำการแชร์ทางเดินข้อมูลของชิพประมวลผล 2D และชิพประมวลผล 3D บนการ์ดใบเดียวกันที่ต้องใช้สล็อต PCI สล็อตเดียวกันนั้นเองครับ ด้วยเหตุนี้ทำให้ Voodoo Rush เป็นที่นิยมน้อยกว่า Voodoo
สาเหตุที่คนนิยม Voodoo มากว่า Voodoo Rush ไม่ได้มาจากความแรงที่เหนือกว่าของ Voodoo อย่างเพียงเดียวเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆประกอบด้วย อาทิเช่น เราสามารถนำ Voodoo ไปต่อพ่วงกับการ์ดจอ 2D ยี่ห้อที่เราชอบได้ สมมติเราชอบคุณภาพ 2D ของ Matrox เราก็ซื้อ Voodoo มาต่อกับ Matrox ได้ แต่ Voodoo Rush นั้นเราไม่สามารถเลือกได้เลย เพราะว่าผู้ผลิตการ์ดจอติดตั้งชิพ 2D อะไรมาให้เรา เราก็ต้องใช้อันนั้น แถมตัวการ์ดก็มีขนาดที่ยาวเทอะทะอีกเสียด้วย
ชิพกราฟิคที่นำมาช่วยในการประมวลผล 2D บน Voodoo Rush มีดังนี้
- Alliance Semiconductor รุ่น Promotion AT25
- Alliance Semiconductor รุ่น Promotion AT30
- Macronix รุ่น MX 86251
- Cirrus Logic (รุ่นที่ใช้ชิพของ Cirrus Logic นี้หายากมากๆครับ เพราะเป็นรุ่นที่เปลี่ยนรูปแบบทางเดินข้อมูลบนตัวการ์ดใหม่หมดเลย เพื่อลดปัญหาขอขวดที่เคยมีมาทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของ Voodoo Rush เพิ่มขึ้นครับ)
ภาพ Voodoo Rush ที่มาพร้อมกับชิพกราฟิคของ Alliance Semiconductor รุ่น Promotion AT25
ภาพ Voodoo Rush ที่มาพร้อมกับชิพกราฟิคของ Alliance Semiconductor รุ่น Promotion AT3D
ภาพ Voodoo Rush ที่มาพร้อมกับชิพกราฟิคของ Macronix รุ่น MX 86251
ภาพ Voodoo Rush รุ่นที่มีการออกแบบตัวการ์ดให้มีขนาดสั้นลง
ผลการทดสอบ Voodoo และ Voodoo Rush
ก่อนอื่นๆต้องมีรายชื่อการ์ดที่นำมาทดสอบมาให้ดูกันก่อน เยอะมากเลยครับ
สำหรับการทดสอบในเกม Turox นี้ก็จะมีทั้งโหมดที่ใช้ Direct 3D และโหมดที่ใช้ Glide ครับ ซึ่ง Glide นี้จะใช้ได้เฉพาะกับการ์ดที่ใช้ชิพของ 3dfx เท่านั้นครับ
นอกจากนี้แล้วการ์ดไหนที่มี engine หรือ API ของตัวเอง ก็จะมีการทดสอบเกมในโหมดที่ใช้ engine หรือ API ของการ์ดนั้นๆด้วยครับ
เนื่องจากการ์ดที่ทดสอบนั้นมีมากมายเหลือเกิน ผมก็เลยทำจุดสีไว้ให้เพื่อที่ท่านผู้อ่านจะได้สังเกตุได้ง่ายๆครับ
จุดสีน้ำเงิน คือ การ์ด Voodoo ธรรมดาครับ
จุดสีแดง คือ การ์ด Voodoo Rush ครับ
จุดสีเหลือง คือ การ์ด Voodoo รุ่นพิเศษจาก Quantum3D ครับ
เราจะพบว่าการ์ด Voodoo ธรรดานั้น จะมีประสิทธิภาพมากกว่า Voodoo Rush อยู่พอสมควร ทั้งๆที่การ์ดทั้ง 2 ตัวใช้ชิพเซตกราฟิค 3D เหมือนกัน แถมตัวที่อยู่บน Voodoo Rush ยังมีความเร็วมากกว่าเสียด้วย แต่อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า Voodoo Rush นั้นต้องใช้บัสส่งข้อมูลร่วมกับชิพ 2D ที่อยู่บนตัวการ์ดทำให้ประสิทธภาพลดลงครับ
สงสัยมัยครับว่าทำไม Quantum3D Obsidian 100SB มันถึงแรงกระชูดกว่าชาวบ้านชาวชองเขา หากท่านอยากรู้ ท่านต้องดูรูปข้างล่างครับ แล้วท่านจะร้อง "อ๋อ รู้แล้วว่ามันแรงเพราะอย่างนี้นี่เอง
ภาพของ Quantum3D Obsidian 100SB - 4400 V ซึ่งนำชิพกราฟิค SST-1 ที่ใช้บนการ์ด Voodoo มาทำการต่อ SLI บนการ์ดใบเดียว มาพร้อมกับหน่วยความจำสำหรับใช้ในการมวลผล 3D จำนวน 12 MB และหน่วยความจำสำหรับประมวลผล 2D จำนวน 2 MB (คลิดรูปดูภาพใหญ่)
มาดูคุณภาพของภาพกันดีกว่า
ภาพข้างบน ที่ได้จาก Voodoo และ Voodoo Rush เมื่อใช้ Glide (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพภาพข้างบน ที่ได้จาก Voodoo และ Voodoo Rush เมื่อใช้ Direct 3D (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพภาพข้างบน ได้จาก ATi Rage Pro เมื่อใช้ Direct 3D (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพข้างบน ได้จาก ATi Rage Pro เมื่อใช้ Rage Pro Engine (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพข้างบน ได้จาก NVIDIA RIVA 128 เมื่อใช้ Direct 3D (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพที่ได้จาก NEC PowerVR เมื่อใช้ PowerVR Engine (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพที่ได้จาก Rendition Verite 2200 เมื่อใช้ Direct 3D (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพที่ได้จาก 3DLabs Permedia 2 เมื่อใช้ Direct 3D (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพที่ได้จาก SIS 6326 เมื่อใช้ Direct 3D (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
Voodoo 2 จุดสูงของ 3dfx
เมื่อ 3dfx ประสบความสำเร็จจากการ์ด Voodoo อย่างสวยงาม ซึ่งก็สร้างความเจ็บปวดให้ไอ้เขียว(NVIDIA) และ ไอ้แดง(ATi) เป็นอย่างมาก เพราะการ์ดของ 3dfx นั้นนอกจากจะมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าคู่แข่งแล้ว ความสวยงามของภาพที่ได้ก็ยังเหนือกว่าคู่แข่งอีกด้วยครับ งานนี้เรียกได้ว่า NVIDIA กับ ATI ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาข่ม 3dfx เลยครับ เพราะ 3dfx ชนะหมดทุกอย่าง และแล้วไอ้เขียว กับไอ้แดงมันก็ใช้มุขสุดคลาสสิค ที่มันนิยมใช้กันจนมาถึงปัจจุบัน นั้นก็คือ การเอาชิพเก่าของตนเองมาเพิ่มความเร็ว Clock แล้วส่งออกมาจำหน่ายครับ ซึ่งก็มีดังนี้
- ไอ้เขียวส่ง NVDIA RIVA 128 ZX ออกมาซึ่งจริงๆแล้วก็คือ RIVA 128 รุ่น OC นั้นเอง
- ไอ้แดงส่ง ATi Rage Pro Turbo ออกมาซึ่งจริงๆแล้วก็คือ Rage Pro รุ่น OC นั้นเอง
หลังจากที่ไอ้เขียวกับไอ้แดง 2 คนร่วมหัวกันใช้มุขสุดคลาสแล้ว ทาง 3dfx จึงต้องสอนมวยให้ไอ้ 2 คนนี้ดูว่าผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานเขาทำกันอย่างไร
โดยทาง 3dfx ได้ปล่อยการ์ด Voodoo 2 ซึ่งใช้ชิพเซตกราฟิค SST-2 ออกมาครับ โดย Voodoo 2 นั้นได้เพิ่ม Texture Mapping Unit (TMU) เข้าไปในชิพเซตเป็น 2 unit ทำให้ Voodoo 2 สามารถทำการ Texture Mapping ได้ที่ละ 2 จุด ต่อ 1 Hz และ Voodoo 2 ยังมาพร้อมกับแรม 64 bit ถึง 3 ชุด (192 bit)
ภาพการ์ดจอ 3dfx Voodoo 2
ข้อมูล Voodoo 2 ซึ่งใช้ชิพเซต SST-2
- เทคโนยีการผลืต 350 นาโนเมตร
- Core clock 90 Mhz
- 1 pixelpipeline, 2 TMU (Texture Mapping Unit )
- Memory : EDORAM 90 MHz, 64 bit x 3
- slot PCI
นอกจากนี้ Voodoo 2 ยังสามารถต่อ SLI ได้ด้วยครับ เรียกได้เทพจริงๆ
เกี่ยวกับ SLi
- SLi ของ 3dfx คือ Scan-Line Interleave
- SLi ของ Nvidia คือ Scalable Link Interface ซึ่งมีการใช้ครั้งแรกใน GeForce 6
หลักการทำงานของ SLI ใน 3dfx
การทำ SLi ของ 3dfx นั้นมีดังนี้ครับ
- การ์ด 2 ตัวแบ่งกันทำงานโดยอีกตัวหนึ่งเป็น Master และอีกตัวหนึ่งเป็น Slave
- Master จะทำการแบ่งหน้าจอออกเป็นเส้นๆ
- Master จะทำการแบ่งงานให้ Slave ประมวลผล โดย Master จะประมวลผลเส้นลำดับที่เป็นเลขคี่ ส่วน Slave จะประมวลผลเส้นลำดับที่เป็นเลขคู่
- Slave นำภาพที่ตนเองสร้างได้ส่งมาให้ Master
- Master ทำการรวมภาพและส่งภาพออกมาแสดงผลบนหน้าจอ
ภาพแสดงการ ต่อ SLi ของ 3dfx Voodoo 2
ภาพ แสดงการทำงานของ SLi ของ 3dfx
เอาล่ะครับเรามาดูผลการทดสอบดูสิว่า Voodoo 2 จะแรงขนาดไหน
คุณภาพของภาพที่ได้จาก Game RAGE's Incoming
คุณภาพของภาพที่ได้จาก เกม Quake 2
ถ้าวัดกันในเรื่องของประสิทธิภาพแล้ว 3dfx voodoo 2 ชนะขาดทุกการทดสอบครับ แต่เรื่องคุณภาพของนั้นจะแพ้ Matrox G200 แต่ Matrox G200 นั้นมีปัญหาอยู่ตรงที่ไม่สามารถเล่นเกมที่ใช้ OpenGL บางเกมได้ครับ
สำหรับยุค Voodoo 2 ถือว่าเป็นยุคที่ยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จที่มากสุดของ 3dfx ครับ เพราะ เกมเมอร์ต่างให้ความสนใจกับ Voodoo 2 เป็นอย่างมาก และ Voodoo 2 ก็ขายได้เป็นจำนวนมากอีกด้วยครับ เพราะบางคนเวลาซื้อไม่ได้ซื้อแค่ตัวเดียวครับ แต่กลับซื้อถึง 2 ตัวไปต่อ SLi ครับ
นอกจากนี้การที่ Voodoo 2 สามารถทำ SLi ได้ ทำให้ Voodoo 2 เป็นการ์ดจอ 3D ตัวแรกที่สามารถแสดงผลที่ความละเอียด 1024 x 768 ได้เป็นตัวแรกครับ แต่หากใช้ Voodoo 2 ตัวเดียวจะสามารถแสดงผลได้เพียง 800 x 600 เท่านั้นครับ
Voodoo 2 ในแบบต่างๆ
ภาพ Voodoo 2 แบบปกติ ที่มีขายอยู่ทั่วไป
ภาพ Quantum 3D Obsidian 2X - 24 เป็นการจอที่ทำออกมาในรูปแบบแซนวิส (sandwich) โดยการนำชิพเซต SST-2 บน Voodoo 2 มาทำ SLI บนการ์ดเดียวกันครับ มาพร้อม RAM 24 MB
Quantum 3D Obsidian 2S เป็น Voodoo 2 ที่ใช้ Interface AGP มาพร้อมกับแรม 12 MB
ภาพ Quantum 3D Mercury คลิกรูปดูภาพใหญ่
Ramepage Project
ในช่วงต้นปี 1998 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Voodoo 2 ออกมานั้น (มกราคม 1998) ทาง 3dfx ได้ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อพัฒนา Ramepage Project โดยจุดมุ่งหมายของ Team นี้คือคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้กับกราฟิคชิพของ 3dfx โดยทีมพัฒนา Ramepage Project ให้ความสนใจกับการพัฒนา T&L engine, MPEG Decoder และเทคโนโลยีใหม่อีกมามาย
Voodoo Banshee
ช่วงปลายปี 1998
อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าจุดอ่อนของ Voodoo และ Voodoo 2 ก็คือ เป็นการ์ดที่ทำหน้าประมวล 3D อย่างเดี่ยว และหากนำชิพ 2D มาติดตั้งบนการ์ดตัวเดี่ยวกันแล้วก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผล 3D ลดลงเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาแล้วใน Voodoo Rush ดังนั้น 3dfx จึงได้หยุดการพัฒนา Rampage Project ไว้ชั่วคราวก่อน แล้วดึงทีมที่ใช้พัฒนา Rampage Project มาช่วยพัฒนาชิพกราฟิคตัวใหม่ซึ่งมีความสามารถประมวลผลได้ทั้ง 2D และ 3D ภายในชิพเพียงตัวเดียวกัน
ผลที่ได้ออกมาคือ ชิพ Voodoo Banshee ซึ่งเป็นชิพที่สามารถประมวลผลได้ทั้ง 2D และ 3D ภายในชิพเพียงตัวเดียว เป็นตัวแรกของ 3dfx โดย Voodoo Banshee นี้ใช้แกนประมวลผล 3D ที่มีพื้นฐานทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกับชิพเซต SST-2 บน Voodoo 2 และใช้แกนประมวลผล 2D ของ 3dfx เอง
เนื่องจาก Voodoo Banshee นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตเท่ากับชิพเซต SST-2 บน Voodoo 2 คือ 350 นาโนเมตร นั้นเอง และ Voodoo Banshee นี้จะต้องนำหน่วยประมวลผล 2D และ 3D มาเก็บไว้ในชิพเพียงตัวเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ต้องตัดบางสิ่งบางอย่างออกไปจาก Voodoo Banshee ซึ่งสิ่งที่ตัดออกไปก็คือ การลดจำนวนของ TMU (Texture Mapping Unit) ซึ่งแต่ก่อนนั้นชิพเซต SST-2 บน Voodoo 2 มี TMU จำนวน 2 Unit แต่ใน Voodoo Banshee นั้นได้ลด TMU เหลือเพียง 1 Unit แต่อย่างไรก็ตาม 3dfx ก็ได้ชดเชยที่สิ่งขาดหายไปด้วยการเพิ่มความเร็ว Core ของ Voodoo Banshee ให้มากกว่า Voodoo 2 และเปลี่ยนชนิดของ Ram จากที่เคยใช้ EDORAM ใน Voodoo 2 มาเป็นการใช้ SDRAM หรือ SGRAM บน Voodoo Bunshee แทน
ภาพ Gigabyte - GA-630 ซึ่งใช้ชิพ Voodoo Banshee ซึ่งมาพร้อมกับ SGRAM 16 MB
แม้ว่า Voodoo Banshee นั้นจะเป็นชิพกราฟิคที่ทำออกมาติดตั้งบนการ์ดที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ AGP ก็ตามที แต่ Voodoo Banshee กับไม่สามารถใช้คุณสมบัติพิเศษที่มีอยู่ใน AGP ได้นั้นก็คือคุณสมบัติ AGP Texturing ครับ โดยเจ้าคุณสมบัติ AGP Texturing นี้จะทำให้กราฟิคการ์ดสามารถยืม RAM ในระบบหรือ RAM บนเมนบอร์ดมาช่วยในการเก็บข้อมูลได้ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ไม่มีใน Voodoo Banshee ดังนั้นสิ่งเดียวที่ Voodoo Banshee ได้จากสล็อต AGP คือ ความเร็วที่เหนือกว่าสล็อต PCI เท่านั้นเองครับ
สำหรับ Voodoo Banshee นี้กลุ่มเป้าหมายคือ ลูกค้าระดับกลาง หรือระดับ Mainstream ครับ ดังนั้น จึงไม่มีการ์ด Voodoo Banshee แบบอลังการงานสร้างมาให้เราๆ ท่านๆได้ตกใจเหมือนกับการ์ดในตระกูล Voodoo และ Voodoo 2 ครับ
เมื่อทำการพัฒนา Voodoo Banshee เสร็จแล้วทีมพัฒนา Rampage Project ก็กลับไปพัฒนา Rampage Project ต่อไปครับ
สำหรับคู่แข่งของ Voodoo ได้แก่
NVDIA RIVA TNT ซึ่งเป็นคู่แข่งที่หน้ากลัวที่สุด S3 Savage3D ราคาถูก แรงพอตัว ภาพสวย ,Bug พอประมาณ ATi Rage 128 แรง และเป็นที่นิยมของเครื่องคอมพิวเตอร์แบรนด์ Matrox G 200 ภาพสวย, เก่ง 2D, เก่ง Direct 3D และ อ่อน OpenGLMSI : 3D-AGPhantom Banshee (MS-4427) ซึ่งใช้ชิพ Voodoo Bunshee
Voodoo Bunshee : specification
เทคโนยีการผลืต 350 นาโนเมตร Core Clock 100 Mhz 1 pixelpipeline 1 TMU (Texture Mapping unit) memory : SD หรือ SGRAM 110 MHz 128 bit Interface AGPเอาล่ะครับงานนี้เรามาชมผลการทดสอบดีกว่าว่า Voodoo Banshee นั้นแรงขนาดไหนครับ
ขออธิบายนิดนึงนะครับสัก 2 ข้อ
- Voodoo 2 เมื่อทำงานเดี่ยวๆไม่ได้ต่อ SLi มันจะสามารถทำงานที่ความละเอียดสูงสุดไม่เกิน 800 x 600 แต่เมื่อต่อ SLi แล้วจะสามารถทำงานที่ความละเอียด 1024 x 768 ได้ครับ
- Voodoo Banshee นั้นแม้จะมีเพียง 1 TMU แต่ก็มีความเร็ว Core และ Mem สูงกว่า Voodoo 2 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Voodoo Banshee สามารถรันเกมที่เป็นเกม Single Texture อย่าง Forsaken, Turok และ Incoming ได้ดีกว่า หากนำ Voodoo Banshee ไปรันบนเกมที่เป็น Complex Texture อย่าง Quake 2 แล้วล่ะก็ Voodoo 2 ซึ่งมี 2 TMU จะทำงานได้ดีกว่า Voodoo Banshee ที่มีเพียง 1 TMU ครับ
ภาพ Voodoo Banshee On board
แม้ Voodoo Banshee จะเป็นแนวความคิดที่ดีของ 3dfx ก็ตาม แต่ขอจำกัดของ Voodoo Banshee คือไม่สามารถแสดงสี 32 bit ได้ และด้วยเหตุนี้ทำให้ลูกค้าของ 3dfx หนีไปใช้สินค้า ATi และ NVIDIA มากขึ้นครับ
และนอกจากนี้ การพัฒนา Voodoo Banshee ยังมีส่งผลให้ Rampage Project ช้าลงไปอีกด้วย แต่โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการพัฒนา Voodoo Banshee ไม่ใช่สิ่งที่สร้างความเสียหายให้กับ 3dfx เลย เพราะหากไม่มี Voodoo Banshee แล้ว ก็คงจะไม่มี Voodoo 3 ซึ่งเป็น ชิพ 2D + 3D เช่นเดี่ยวกับ Voodoo Banshee อย่างแน่นอน
โดยรวมแล้ว Voodoo Banshee ได้รับความนิยมสู้ Voodoo และ Voodoo 2 ไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงลางร้ายที่กำลังจะมาเยือน 3dfx ในไม่ช้า แล้วทาง 3dfx จะรับมืออย่างไร
การกอบกู้ความนิยมกลับคืนมา
จากตอนที่แล้วเราได้ทราบว่ากระแสความนิยมของ 3dfx ลดลงก็เพราะว่าการ์ดจอที่ใช้ชิพของ 3dfx ยังไม่สนับสนุนการแสดงผลที่สี 32 bit นั้นเองครับ ซึ่งชิพกราฟิคจากค่ายอื่นๆเขาก็สนับสนุนการแสดงผลที่สี 32 bit ไปกันหมดแล้ว งานนี้เราลองมาดูสิว่า 3dfx ว่าจะทำยังไง
หลายคนอาจจะบอกว่า "ก็แค่ผลิตชิพที่สนับสนุนการแสดงผลสี 32 bit ออกมาสิ" แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ พูดง่ายนะมันง่าย แต่ทำนะมันยาก เพราะการจะออกผลิตภันฑ์แต่ละตัวนั้นต้องใช้เวลาครับ ดังนั้น 3dfx จึงได้หันใช้ใช้วิธีการเรียกความนิยมที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด ง่ายที่สุด แต่ก็เปลื่องเงินที่สุดเช่นกัน นั้นก็การโฆษณาช่วนเชื่อนั้นเองครับ โดย 3dfx ดำเนินการ 2 ขั้นตอนดังนี้
- ทำการเปลี่ยน Logo ขององค์กรให้ดูทั้นสมัยเหมาะกับเกมเมอร์มากขึ้น
- ทำการโฆษณาผ่านทางซื้อโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่าสื่ออื่นๆที่มีอยู่ในสมัยนั้น เช่น internet และ นิตยสารคอมพิวเตอร์
ภาพ Logo ของ 3dfx ที่เปลี่ยนใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
ผลที่ได้คือ นอกจากจะมีคนที่รู้จัก 3dfx เพิ่มขึ้นแล้ว หลายๆคนก็ยังมีความอยากจะได้การ์ดจอที่ใช้ชิพของ 3dfx มาใช้งานมากกว่าการ์ดจอที่ใช้ชิพของผู้ผลิตรายอื่นๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วเหตุการนี้ก็ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร เพราะคนส่วนใหญ่ก็มักจะสนใจ และอยากได้สินค้าที่โฆษณาทางโทรทัศน์มากกว่าสินค้าที่ไม่ได้โฆษณาทางโทรทัศน์ใช่ไหมครับ
ความโลภ ผู้ชี้นำหนทางแห่งความตาย
หลังจากที่ 3dfx ได้ทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปอย่างนักหน่วงกว่าผู้ผลิตชิพกราฟิค่ายใดๆ ที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้แบรนด์ หรือ ยี่ห้อ ของ 3dfx นั้นเป็นที่รูจักกันอย่างแพร่หลาย ลูกค้าหลายต่างก็ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ไว้วางใจ และศัทธาในแบรนด์ของ 3dfx เป็นอย่างยิ่ง ช่วงเวลานั้นเรียกได้ว่า หากใครจะซื้อการ์ดจอไว้เล่นเกมต้องซื้อ Voodoo ของ 3dfx เท่านั้นครับ
และเมื่อความนิยมของมวลชนถาโถมเข้ามามากๆ ความโลภก็เขาครอบงำ 3dfx อย่างสนิท เจ้าความโลภนี้แหละ ที่ตนบัลดาลใจให้ 3dfx เหลือกหนทางที่จะผูกขาดตลาดการ์ดจอ และเงินทุกบาททุกสตางค์ในตลาดนี้ให้มาอยู่ในกระเป๋าของตัวเองเพียงคนเดียว
โดย 3dfx ได้วางแผนซื้อ STB ซึ่งเป็นโรงงานผลิตการ์ดที่ตั้งอยู่ในแม็กซิโก โดย 3dfx มีความคิดว่า 3dfx จะเป็นคนผลิตชิพเอง แล้วก็ให้ STB ซึ่งเป็นโรงงานที่ต้นเองซื้อมาผลิตการ์ดให้ หลังจากนั้นตนเองก็ส่งการ์ดจอที่ผลิตได้เองไปขายเอง แล้วก็เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เขากระเป๋าตัวเองแต่เพียงผู้เดียว
Voodoo 3
เนื่องจากชิพที่ 3dfx หวังว่าจะได้จาก Rampage Project ยังพัฒนาไม่เสร็จสมบูรณ์ ทาง 3dfx จึงนำบางส่วนที่ได้จากพัฒนาเสร็จจาก Rampage Project มาผสมผสานกับพื้นฐานทางเท็คโนโลยีของ Voodoo Banshee และได้ออกมาเป็น Voodoo 3 ครับ
ความแตกต่างระหว่าง Voodoo 3 และ Voodoo Banshee นั้นมีดังนี้ครับ
- Voodoo 3 มีหน่วยประมวลผล 2D ที่ทำงานได้รวดเร็วกว่า Voodoo Banshee และ Voodoo 3 ยังสามารถถอดรหัส MPEG ได้ในระดับ Hardware
- Voodoo 3 สนับสนุน DirectX 6 แต่ Voodoo Banshee เพียง DirectX 5
- Voodoo 3 ใช้เทคโนโลยีการผลิต 250 นาโนเมตร แต่ Voodoo Banshee ใช้เทคโนโลยีการผลิต 350 นาโนเมตร
- Voodoo 3 มี่ TMU จำนวน 2 Unit (ในรุ่น Voodoo 3 2000 ขึ้นไป)แต่ Voodoo Banshee มี่ TMU เพียงจำนวน 1 Unitเท่านั้น
เพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะทำให้ Voodoo 3 มีประสิทธิภาพแตกต่างจาก Voodoo Banshee อย่างมากมายครับ
*หมายเหตุ Voodoo 3 มีอีกชื่อเล่นว่า Voodoo Banshee 2 ครับ
สำหรับในช่วง Voodoo 3 นี้ 3dfx นี้ไม่ได้ทำการผู้ขาดมากมายอย่างที่ต้นเองคิดไว้ครับ เพราะ 3dfx กำลังปรับตัวอยู่นั้นเองครับ(เพื่อเตรียมตัวที่จะเป็นผู้ผูกขาดในชิพรุ่นต่อไปไงครับ อิอิ) โดยการที่ 3dfx เริ่มใช้ STB ผลิตการ์ดเองในบางส่วนเท่านั้น และบางส่วนก็ยังคงส่งชิพให้กับผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่นๆนำไปผลิตเป็นการ์ดจออยู่ครับ
Voodoo 3 มีรุ่นต่างๆดังนี้
Velocity 100 หรือ Voodoo 3 1000 หรือ Voodoo 3 รุ่นประหยัด
- เทคโนโลยีการผลิต 250 nm
- Core speed 143 MHz
- 1 pixelpipeline 1 TMU
- Memory:SGRAM 8 MB 143 MHz 128bit
- Slot AGP
Velocity 200 หรือ Voodoo 3 1000 หรือ Voodoo 3 รุ่นประหยัด
- เทคโนโลยีการผลิต 250 nm
- Core speed 143 MHz
- 1 pixelpipeline 1 TMU
- Memory:SGRAM 16 MB 143 MHz 128bit
- Slot AGP
Voodoo3 2000
- เทคโนโลยีการผลิต 250 nm
- Core speed 143 MHz
- 1 pixelpipeline 2 TMU
- Memory:SGRAM และ SDRAM 16 MB 143 MHz 128 bit
- Slot AGP และ PCI
Voodoo3 3000
- เทคโนโลยีการผลิต 250 nm
- Core speed 166 MHz
- 1 pixelpipeline 2 TMU
- Memory:SGRAM และ SDRAM 16 MB 166 MHz 128 bit
- Slot AGP
Voodoo3 3500TV
- เทคโนโลยีการผลิต 250 nm
- Core speed 183 MHz
- 1 pixelpipeline 2 TMU
- Memory:SDRAM 16 MB 183 MHz 128 bit
- Slot AGP
- TV / FM
ภาพ Velocity 100 หรือ Voodoo 3 1000 หรือ Voodoo 3(คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพ Velocity 200 หรือ Voodoo 3 1000 หรือ Voodoo 3(คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพ Voodoo3 2000 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพ Voodoo3 3000(คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพ Voodoo3 3500 (คลิกรูปดูภาพใหญ่)
ภาพ การ์ด Asus Voodoo 3 3000 ซึ่งประกอบใน แม็กซิโก จากโรงงาน STB ของ 3dfx
ภาพ การ์ด SuperTek Voodoo 3 2000 TV out ซึ่งประกอบในไตหวัน โดยโรงงานอื่นๆที่ไม่ใช่ของ 3dfx
ภาพเมนบอร์ดยี่ห้อ A-Trend ATC6254 ซึ่งนำชิพ Voodoo 3 มาทำเป็นการ์ดจอ ออนบอร์ด
เอาล่ะครับมาดูผลการทดสอบดีกว่าครับ
คู่แข่ง Voodoo คือ
- NVIDIA TNT2
- ATi Rage 128
- ATi Rage Furry (เป็นคู่ต่อสู้ที่ดูเหมือนว่าจะหน้ากลัวที่สุด)
- Matrox G400
- S3 Savage4
หากมองในแง่ของประสิทธิภาพเมื่อรันเกมในโหมดคุณภาพสี 16 บิตแล้ว ถือว่า Voodoo 3 Series เป็นการ์ดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด แต่หน้าเสียดายที่ Voodoo 3 ไม่สามารถทำงานที่โหมดคุณภาพสี 32 บิตได้ครับ
แต่การที่ Voodoo 3 ไม่สามารถแสดงผลที่คุณภาพสีที่ 32 bit ก็อย่าเพิ่งคิดว่าภาพของ Voodoo 3 นั้นจะสวยน้อยกว่าชิพของค่ายอื่นๆนะครับ เพราะการแสดงผล 3D นั้นมีองค์ประกอบหลายอย่างที่มีผลต่อความสวยงามของภาพครับ เช่น การสร้างพื้นผิวที่สมจริงสมจังโดยที่ภาพไม่แตก หรือ ความสามารถในการสร้างเปลวเปลิงที่แสดงผลได้ไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นการที่สามารถสร้างสีได้มากกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าภาพจะสวยกว่าเสมอไปใช้ไหมครับ ว่าแล้วไปดูกันดีกว่า
ในบางเกม Voodoo 3 ที่มีสีเพียง 16 บิต อาจจะสู้ไม่ได้ แต่ในทางกลับกันบาง Voodoo3 ก็กลับสามารถแสดงผลได้สวยกว่าในบางเกม
จากสถานะการโดยสรุปแล้ว Voodoo 3 นั้นทำส่วนแบ่งตลาดได้น้อยกว่า Voodoo และ Voodoo 2 เสียอีกครับ เพราะว่าลูกค้าต่างให้หันไปใช้การ์ดจอยี่ห้ออื่นๆที่สามารถุแสดงสี 32บิตได้มากขึ้นนั้นเองครับ
3dfx งานเข้า
เอาล่ะครับพี้น้อง เดิมที่ 3dfx ก็มีโจรทย์ที่ต้องแก้ปัญหาให้ชิพของตนเองนั้นสามารถเล่นเกมในโหมดสี 32 บิต ให้ได้อยู่ แต่ก็ยังโชคดีอยู่ที่ว่าในตลาดเวลานั้นไม่มีการ์ดตัวไหนที่มีความเร็วเหนือกว่า Voodoo3 3500TV ได้เลย แต่และแล้วความได้เปรียบด้านความเร็วของ 3dfx ก็ได้หายไปเมื่อ NVIDIA ส่งชิพกราฟิครุ่นใหม่ล่าสุดของตนลงมา นั้นก็คือ NVIDIA GeForce 256 ชิพกราฟิคที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น GPU ตัวแรกของโลก เจ้า GeForce 256 นี้มันมี T&L Unit อยู่ในตัวด้วยครับ ซึ่ง T&L Unit นี้จะช่วยประมวลผลโครงสร้าง 3D และคำนวณแสงตกกระทบแทนซีพียูครับ ทำให้ภาพที่ได้สวยงามขึ้น และเร็วขึ้นด้วยครับ
งานนี่เรียกได้ 3dfx งานเข้าของจริงเสียแล้วครับ เพราะจุดได้เปรียบของตัวเองแทบไม่เหลือเลยครับ ยกเว้นความจงรักภักดีของแฟนๆ Voodoo ที่มีให้กลับ 3dfx ตลอดกาล
จากผลการทดสอบเราจะเห็นว่า ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้น ทุกค่ายแพ้ GeForce 256 แบบยับเยินไปเลยครับ
คลิก ! เพื่ออ่าน A.A.C ตอนที่ 17 :ตำนาน 3dfx ผู้ปฏิวัติวงการเกม PC ภาคจบ
บทความโดย IonRa
e-mail : ionra@live.co.uk
บทความนี้เคยนำเสนอในเว็บบอร์ดของเว็บต่อไปนี้
1 ความคิดเห็น:
intel แอบมีสีเพี้ยน
แสดงความคิดเห็น