A.A.C ตอนที่ 4 : NV1 เปิดตำนาน NVIDIA

n (ตัวพิมพ์เล็ก) คือ ตัวแปลที่ใช้แทนจำนวนนับในทางคณิตศาสตร์

Video มีรากศัพท์มาจากคำว่า Videre ในภาษาลาติน แปลว่า การมองเห็น

เมื่อนำมารวมกันแล้วจะได้คำว่า NVIDIA ก็แปลว่าการมองเห็นที่หลากหลายครับ (ดังนั้นจึงมี Logo เป็นรูปตาไงครับ)

Nvidia เมื่ออ่านแล้วจะออกเสียงจะเหมือนกับคำว่า Envy ในภาษาอังกฤษ และเหมือนกับคำว่า Invidia ในภาษาลาติน ซึ่งทั้งคำว่า Envy และ Invidia แปลว่า ริษญา

ริษญา เป็น 1 ในมหาบาปของทางตะวันตก ซึ่งมหาบาปแต่ละชนิดจะมีสัญลักษณ์ และสีประจำของมหาบาปนั้นๆอยู่ครับ

ซึ่งมีสัญลักษณ์ของความริษญา คือ "งู" และสีประจำของความริษญา คือ "สีเขียว" ครับ

แต่กระทู้นี้เราไม่ได้มาคุยเรื่องความหมายของคำว่า NVIDIA แต่เราจะมาคุยเรื่อง การ์ดจอตัวแรกของ NVIDIA กันครับ นั้นก็คือ NV1 นั้นเองครับ

NVIDIA นั้นเดิมทีไม่ใช้บริษัทใหญ่อะไรเลยครับ ช่วงเริ่มต้น NVIDIA ไม่มีแม้แต่โรงงานผลิตชิปเป็นของตัวเองด้วยซ้ำไปครับ NVIDIA เป็นเพียงบริษัทเล็กๆที่ออกแบบเทคโนโลยีกราฟฟิกเท่านั้นครับ เมื่อออกแบบเสร็จแล้ว ก็นำแบบของตนเองไปจ้างโรงงานอื่นๆผลิตต่อครับ

สำหรับ NV1 นั้นทาง NVIDIA เป็นผู้ออกแบบและให้ทาง SGS-THOMSON Microelectronics ช่วยผลิตชิปออกมาให้ครับ โดยได้ชิปชื่อว่า STG-2000 ดังรูปข้างล่างครับ

แต่การ์ดบางรุ่นตัวชิปก็จะมีการสกีนมาเป็น NV1 ครับ

ในปี 1995 NV1 นั้นถูกทาง Dimond Multimedia นำไปผลิตออกมาเป็นการ์ดชื่อ "EDGE 3D" โดยตัวการ์ดเป็น Multimedia Card ครับ

การที่ทำเป็น Multimedia Card นั้นหมายความว่ามันมีทั้งหน่วยประมวลผลกราฟ 2D/3D, การ์ดเสียง และพอร์ตสำหรับเชื่อต่อจอยเกม ของเครื่อง SEGA Saturn อยู่บนการ์ดใบเดียวกันหมดเลยครับ

ลืมบอกไปว่าเดิมที NV1 นั้นถูกผลิตออกมาเพื่อให้ใช้งานกลับเครื่อง SEGA Saturn ครับ

โดยตัว NV1 ใช้เทคนิค quadratic surfaces ในการสร้างพื้นผิวของภาพ 3D ครับ

หลังจากนั้น NVIDIA จึงได้ทำการ์ด NV1 สำหรับเครื่อง PC ออกมาเพื่อให้ที่จะทำให้ผู้ใช้ PC สามารถเล่นเกมที่พอร์ตจากเครื่อง SEGA Saturn ลงมาบน PC ได้ครับ

แน่นอนว่า NV1 บน PC ย่อมต้องใช้เทคนิค quadratic surfaces ในการสร้างพื้นผิวของภาพ 3D เช่นเดียวกับชิป NV1 บน SEGA Saturn ครับ ซึ่งเทคนิคที่ NVIDIA ใช้ในต้อนนั้นแตกต่างจากเทคนิค Polygon ที่ผู้ผลิตชิปกราฟฟิกบน PC ส่วนใหญ่ใช้กัน

ทำให้ NV1 การ์ดที่เล่นเกมที่พอร์ต SEGA Saturn ได้สวยงานที่สุดครับ

quadratic surfaces แตกต่างจาก Polygon อย่างไร

Quadratic surfaces คือการสร้างพื้นพิวสามมิติด้วยสมการกำลัง 2 ครับ เช่น สมการสงกลม, สมการวงรี , สมการสงกรวย และสมการกำลังสองอื่นๆอีกมากมายครับ

Polygon คือ การสร้างพื้นผิวสามมิติโดยการนำรูปสามเหลี่ยมมาต่อกันเป็นรูปทรงต่างๆครับ

แต่และแล้วกาลเวลาก็เปลี่ยนไปครับ เมื่อทาง Microsoft ได้สร้าง API ที่เป็นมาตรฐานสำหรับเกม 3D ขึ้นมา นั้นก็คือ Direct 3D นั้นเอง

และเป็นคราวซวยของ NVIDIA เพราะ Direct 3D สนับสนุนการการสร้างพื้นผิวของภาพ 3D ด้วยเทคนิค Polygon ครับ

ทำให้ NVIDIA ต้องทำการปรับปรุง Driver ให้ NV1 สามารถใช้เทคนิค Polygon ได้ครับ แต่ เจ้าการ์ด NV1 ก็ทำงานไม่ได้เต็มที แถมตัว Driver เองก็ยังมี BUG เติมยั้วเยี้ยไปหมดครับ ทำให้ช่วงนั้น NVIDIA แถบจะไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งในตลาดกราฟฟิกได้เลยครับ และหน่วยประมวลผล 2D ที่อยู่บน NV1 นั้นคุณภาพก็อยู่ในระดับใช้ได้เท่านั้นเองเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น แถมระบบเสียงบนตัวการ์ดยังให้คุณภาพของ MIDI ไม่ดีอีกครับ แล้วเกมส่วนใหญ่ในสมัยนั้นก็ดันใช้ MIDI เป็นส่วนใหญ่ด้วยน่ะ กลายเป็นเป็นว่าระบบเสียง 3D Dolby Digital ที่ NVIDIA แถมมาให้ไม่มีประโยชน์สำหรับยุคโบราณเลยครับท่าน

ที่ซวยซ้ำซวยซ้อนเขาไปอีกก็คือ NVIDIA ได้ผลิต NV2 ออกมาเพื่อจะนำไปขายให้ SEGA สำหรับทำเครื่องเล่นเกม SEGA Dreamcast แต่เพราะว่า NV2 นั้นใช้เทคนิค quadratic surfaces ครับ ทำให้ SEGA ไม่ต้องการ NV2 ของ NVIDIA แต่ SEGA กลับไปเลือก CLX2 จาก NEC และ PowerVR แทนครับ (CLX2 ใช้ Polygon ในการสร้างพื้นผิว)

แต่ด้วยใจมุ่งมันไม่ยอมแพ้ ในเวลาต่อมา NVIDIA ได้ตั้งลำใหม่กับ NV3 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ RIVA 128 นั้นเอง

โดย RIVA 128 นั้นสนับสนุน DirectX 5 และ OpenGL (และแล้ว NVIDIA ก็ยอมใช้ Polygon)(RIVA ย่อมาจาก Real-time Interactive Video and Animation)

RIVA 128 นั้นเรียกว่ามีทั้งประสิทธิภาพ และคุณภาพพอๆกับ Voodoo เลยครับ แต่หากใครศึกษาประวัติของ 3DFX มาจะพบว่าสินค้าของบริษัทนี้ผลิตได้ไม่เคยพอต่อความต้องการของลูกค้าเลย งานคนที่ซื้อ Voodoo ไม่ทันและทนรอสินค้าชุดใหม่ออกมาไม่ไหว ก็ต้องมาซื้อ RIVA 128 แทนครับ Nvidia ก็รับไปเติมๆ

ภาพข้างล่างแสดง คุณภาพของภาพที่ได้จาก Nvidia Riva 128

ภาพข้างล่างแสดง คุณภาพของภาพที่ได้จาก Voodoo และ Voodoo Rush

ภาพข้างล่างแสดง คุณภาพของภาพที่ได้จาก ATi Rage Pro (งานนี้แฟน ATI มาเห็นต้องไม่เชื่อสายตาแน่ๆว่า ATI สมัยก่อนมันจะห่วยขนาดนี้ O_o)

ภาพข้างล่างแสดง SIS 6326 ครับ การ์ดจอสามัญประจำบ้าน(ภาพมันสวยกว่าATi เสียอีก T T แต่ยังดีที่ FPS มันน้อยกว่าเยอะ \(* 0 *)/)

ภาพข้างล่างแสดง คุณภาพของภาพที่ได้จาก PowerVR PCX2 (สังเกตุดูนะครับ หินมันจะแหวงๆไปนิดหนึ่ง)

ภาพข้างล่างแสดง คุณภาพของภาพที่ได้จาก Rendition's Verite 2100 or 2200

ภาพข้างล่างแสดง คุณภาพของภาพที่ได้จาก Diamond Fire GL 1000 Pro (3DLabs Permedia 2) Fire GL ของ Diamond ในยุคนั้นใช้ชิป 3DLabs นะครับ พี้น้อง ไม่ใช้ ชิป ATI ครับ

สรุป

จากรูปที่นำมาแสดงให้ดูจะเห็นว่าชิพที่ให้ได้ทั้งภาพสวยๆ และ FPS สูงๆไปได้พร้อมกันนั้น มีเพียงแค่ 2 ตัว คือ 3DFX Voodoo และ NVIDIA RIVA128 ครับ

แต่ ATi แม้ภาพจะไม่สวย(ในสมัยนั้น) แต่ FPS มากพอที่จะเล่นได้ไม่กระตุกนะครับ 26.3 เฉียดๆครับ(ทนหน่อยนะครับ ให้คนรัก ATI มาเขียนเรื่อง NVIDIA ก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ)

หลังจากนั้น NVIDIA ก็เริ่มสร้างตัวจากที่เคยเป็นแค่บริษัทออกแบบเทคโนโลยีกราฟฟิก ต่อมาก็กลายมาเป็นผู้ผลิตชิปกราฟฟิกเองด้วยครับ และด้วยบทเรียนที่เคยผิดผลาดมาในอดีตสอนให้ Nvidia ก้าวเดินไปอย่างระมัดระวัง และมียุทธศาสตร์ที่ถูกต้องชัดเจน จนในที่สุด ปี ค.ศ. 2000 NVIDIA ก็กลายเป็นผู้ผลิตชิปกราฟฟิก อันดับ 1 สำหรับตลาดเกมส์ไปแล้วครับ

จากความล้มเหลวในปี 1995 ใช้เวลา 5 ปีสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในปี 2000

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "เสียอะไรก็เสียไป แต่จงอย่าเสียหัวใจแห่งความเป็นยอดนักสู้ไปเด็จขาด"